แข่งกับใคร? เป็นคำถามที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาด สำหรับแบรนด์ต้องทำความเข้าใจคู่แข่งในตลาดอย่างชัดเจน แต่อย่าลืมว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญด้วย เช่น ความต้องการของลูกค้า แนวโน้มตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดของตนเองที่จะต้องพิจารณาด้วย การวิเคราะห์อย่างรอบด้านจะช่วยให้แบรนด์สร้างจุดแข็งและกลยุทธ์ในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
แข่งกับใคร? ประเด็น ที่เจ้าของแบรนด์ควรพิจารณา
- ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย – ต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการ พฤติกรรม และปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อสามารถตอบสนองได้ดีกว่าคู่แข่ง
- แนวโน้มของตลาด – ต้องติดตามแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ในอุตสาหกรรม เช่น เทรนด์ผู้บริโภค นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันสมัย
- จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง – ต้องประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอะไรบ้างเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพื่อเน้นจุดแข็งและปรับปรุงจุดอ่อน
- โอกาสและอุปสรรค – วิเคราะห์โอกาสทางการตลาดที่ยังไม่มีคู่แข่งรายใดครอง และอุปสรรคหรือข้อจำกัดต่างๆ ที่อาจเผชิญ
- กลยุทธ์การตลาดและวิธีการสร้างความแตกต่าง – พัฒนากลยุทธ์เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มจากคู่แข่ง ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย หรือการสื่อสารการตลาด
การวิเคราะห์อย่างรอบด้านในประเด็นเหล่านี้ จะช่วยให้แบรนด์เข้าใจตลาดและคู่แข่งอย่างลึกซึ้ง และสามารถวางกลยุทธ์การแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อหากลยุทธ์การแข่งขันที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์
- การจัดอันดับคู่แข่ง จัดลำดับคู่แข่งตามระดับความสำคัญ โดยพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาด ฐานลูกค้า ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ฯลฯ แล้ววิเคราะห์จุดแข็ง-อ่อนของคู่แข่งสำคัญให้ลึกซึ้ง
- การวิเคราะห์ตำแหน่งผลิตภัณฑ์
ศึกษาว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งแต่ละรายตั้งตำแหน่งผลิตภัณฑ์อยู่ตรงไหนในการรับรู้ของลูกค้า และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคืออะไร ช่วยให้เข้าใจพื้นที่การแข่งขันที่ชัดเจนขึ้น - กลยุทธ์การแข่งขันของคู่แข่ง วิเคราะห์กลยุทธ์หลักที่คู่แข่งใช้ เช่น การตั้งราคา การส่งเสริมการขาย การสร้างความแตกต่าง การมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการจัดจำหน่าย ฯลฯ เพื่อหาจุดแข็งจุดอ่อน
- ข้อได้เปรียบในการแข่งขันของคู่แข่ง ประเมินปัจจัยที่ทำให้คู่แข่งมีข้อได้เปรียบ เช่น เงินทุน เทคโนโลยีการผลิต สิทธิบัตร ความสามารถทางการตลาด คู่ค้ารายสำคัญ ฯลฯ เพื่อหากลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างและรักษาข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
- การคาดการณ์กลยุทธ์ในอนาคตของคู่แข่ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของคู่แข่ง ให้พยายามคาดการณ์ทิศทางกลยุทธ์ในอนาคตที่คู่แข่งอาจใช้ เพื่อเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้า
การวิเคราะห์คู่แข่งอย่างละเอียดและรอบด้าน จะช่วยให้แบรนด์สามารถวางกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ได้
นอกเหนือจากการวิเคราะห์คู่แข่งโดยตรงแล้ว แบรนด์ควรพิจารณาอะไรอีกบ้าง
สภาพแวดล้อมภายนอก (External Environment)
- ปัจจัยด้านการเมือง กฎหมาย ภาษี นโยบายของภาครัฐ
- ปัจจัยด้านสังคม วัฒนธรรม ค่านิยม รูปแบบการดำรงชีวิต
- ปัจจัยด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
- ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ รายได้ อัตราการว่างงาน อัตราดอกเบี้ย ฯลฯ
อำนาจต่อรองของคู่ค้า
- อำนาจการต่อรองของผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ/ส่วนประกอบหลัก
- อำนาจการต่อรองของลูกค้ารายใหญ่
- การมีผู้จัดจำหน่ายทางเลือกหรือสินค้าทดแทนมากน้อยเพียงใด
คู่แข่งรายใหม่ที่อาจเข้ามาในอนาคต
- อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดสูงหรือต่ำ
- ต้นทุนค่าใช้จ่ายเริ่มต้นธุรกิจสูงหรือต่ำ
- กฎระเบียบหรือข้อจำกัดทางกฎหมายต่างๆ
ผลิตภัณฑ์ทดแทน/สินค้าทดแทน
- มีสินค้า/บริการทดแทนในตลาดมากน้อยเพียงใด
- ต้นทุนในการเปลี่ยนไปใช้สินค้าทดแทนสูงหรือต่ำ
- ประสิทธิภาพในการทำงานของสินค้าทดแทนเหล่านั้น
การวิเคราะห์ประเด็นเหล่านี้ร่วมกับการวิเคราะห์คู่แข่งโดยตรง จะทำให้แบรนด์มีภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน